เด็กทุกคนควรเรียนรู้ จัดการกิจวัตรประจำวันของตัวเอง อย่างเป็นเวลา เช่น เรื่องกิน นอน หรือเรื่องเรียน เพื่อเรียนรู้วินัย ความรับผิดชอบง่าย ๆ สิ่งสำคัญและปัจจัยที่ทำให้เกิดผลเป็นจริงได้ ก็คือคุณพ่อคุณแม่นั่นเอง
1. แปรงฟัน
พาลูกไปเลือก ไปซื้อแปรงสีฟัน-ยาสีฟัน ที่ลูกชอบหรืออยากได้สิคะ เป็นวิธีที่ให้ลูกมีส่วนร่วมกับเรื่องของเขาเอง เพียงคุณเป็นผู้ช่วยที่บอกถึงเรื่องสุขอนามัยในช่องปาก เช่น ก่อนเข้านอน ก็ชวนกันไปฉลองแปรงสีฟันอันใหม่ และอย่าลืมบอกวิธีการแรปงฟันที่ถูกต้องให้กับลูกด้วย
2. สระผม
เด็กเล็ก ๆ ของเล่นเป็นสิ่งจูงใจได้มาก ส่วนเจ้าหนูตัวโต อาจเพิ่มเทคนิค ว่าด้วยความชอบความสนใจชักชวนลูก เช่น วันนี้แม่แชมพูกลิ่นหอม ๆ ของแม่ หนูน่าจะชอบแล้วก็ให้ลูกเป็นนักทดลอง คุณสอนลูกสระผม เช่น เทแชมพูใส่ฝ่ามือทีละน้อยสระ 2ครั้ง ล้างด้วยน้ำสะอาดจนแน่ใจว่าฟองหมด
3. อาบน้ำ
ใช้นิทานที่มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับการทำความสะอาดร่างกายการอาบน้ำ ดูแลตัวเอง มาเป็นเครื่องมือในการสอนลูก ลูกจะได้ทั้งความสนุก ลูกจะได้ทั้งความสนุก ความเพลิดเพลินจากการฟังนิทาน ซึมซับข้อดีเรืองการอาบน้ำ ทำความสะอาดร่างกายด้วยค่ะ
4. ขับถ่าย
สอนลูกให้เข้าใจถึงความจำเป็น เรื่องระบบขับถ่ายสุขภาพที่ดีผ่านการกินอาหารที่มีกากใย เช่น ผักผลไม้ กินให้ครบ 5หมู่ ดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ จะได้ไม่ติดนิสัยเลือกกินอาหารชนิดใดชนิดหนึ่ง ที่สำคัญคุณเอง ก็ต้องเป็นต้นแบบให้ลูก ๆ
5. ใส่เสื้อผ้า
ร้องเพลงประกอบท่าทาง ก็เป็นเรื่องสนุกชักชวนลูกเรียนรู้เรื่องการใส่เสื้อผ้าได้ค่ะ เช่น ชูมือขึ้นแล้วหมุน ๆ เรามาใส่เสื้อทีละแขนใส่เสร็จแล้วก็ติดกระดุม เช็กความเรียบร้อยดูสิติดกระดุมครบหรือเปล่านะ รูดซิปหรือยังเอ่ย เป็นต้น
6. ใส่ถุงเท้า-รองเท้า
เล่นเกมแข่งใส่ถุงเท้า โดยจับเวลากันว่า ระหว่างคุณพ่อกับคุณลูกใครทำได้เร็วและเสร็จก่อน คนนั้นชนะพร้อมปรบมือให้กำลังใจ และลงท้ายด้วยการสอนลูก เช่น ใส่ถุงเท้าให้ถูกด้านผูกเชือกรองเท้าเรียบร้อยหรือไม่ เป็นต้น
7. ซักผ้า
ชวนทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น ให้ลูกคนเล็กช่วยตักน้ำใส่กะละมัง ส่วนพี่คนโต มีกำลังแรงมากกว่า ก็ช่วยแม่ซักผ้า อาจเริ่มจากซักผ้าเช็ดหน้า ซักถุงเท้าของตัวเองก่อนก็ได้ค่ะ แล้วเมื่อถึงวัยที่คุณเห็นควร ก็ให้ลูกได้ดูแลเรื่องความสะอาด เสื้อผ้าของตัวเอง
8. ดูแลที่นอน
ยกให้เป็นหน้าที่ลูกวัยโต วัยที่รับรู้เรียนรู้ได้มากกว่าเด็กเล็กค่ะ โดยให้ลูกคอยช่วยงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ของตัวเองและคุณ เช่น จัดเก็บทำความสะอาดที่นอนของตัวเองทุกครั้งเมื่อตื่นนอนหรือล้างจาน เมื่อกินอาหารเสร็จแล้ว
ที่ลืมไม่ได้คือ กำลังใจ คำชมเชย เป็นพลังบวก ที่ให้กำลังใจ มีมูลค่ากับความรู้สึกของลูกค่ะ ฉะนั้น ชมลูกคนเก่งของคุณ เมื่อลูกทำได้ด้วยนะคะ
ข้อมูล : https://www.thaihealth.or.th/Content/46047-content.html