ตะกร้าสินค้า
cancel

My Cart

ยอดรวม

0.00 บาท

กุ๋งกิ๋งชวนเที่ยวพิพิธภัณฑ์

วันที่ : 22/04/2022
remove_red_eye อ่านแล้ว : 1,556 คน
share แชร์
 
กุ๋งกิ๋ง เป็นตัวละครจากหนังสือนิทานที่ขายดีที่สุดของแปลน ฟอร์ คิดส์ เปรียบเสมือนเพื่อนรักของเด็ก ๆ
และเป็นผู้ช่วยของพ่อแม่ในการส่งเสริมพฤติกรรมสร้างสรรค์ให้กับลูก มียอดจำหน่ายมากกว่า 5 ล้านเล่มทั่วโลก
และยังขายลิขสิทธิ์ให้จีน ไต้หวัน ฮ่องกง มาเก๊า สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซียอีกด้วย 
 
 
 
หนังสือชุดกุ๋งกิ๋งเกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2548 ปัจจุบันครบรอบ 17 ปี เริ่มจากหนังสือชุดแรกคือชุดส่งเสริมสุขนิสัย ช่วยให้เด็ก ๆ รักษาความสะอาดและรู้จักดูแลตัวเองเพื่อสุขอนามัยที่ดี มาถึงชุดกุ๋งกิ๋งเที่ยวพิพิธภัณฑ์ ที่บริษัท แปลน ฟอร์ คิดส์ จำกัด จัดงานแสวนา “กุ๋งกิ๋งเที่ยวพิพิธภัณฑ์” โดยมีคุณปราณปรียา วงค์ษา ผู้อำนวยการสำนักเครือข่ายองค์ความรู้ (สคร.) ดร.บัลลังก์ เนื่องแสง ผู้รักษาการแทน ผู้อำนวยการสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา คุณมณิศา ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา ผู้เขียนนิทานกุ๋งกิ๋ง ชุด เที่ยวพิพิธภัณฑ์ และคุณนุ่น English Afternoonz เป็นพิธีกรในงาน 
 
ครั้งนี้กุ๋งกิ๋งชวนไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ 2 แห่ง คือ พิพิธภัณฑ์อวกาศ Kung King Visits Space Museum และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Kung King Visits Aquarium ได้รับแรงบันดาลใจและไปศึกษาข้อมูลจากสถานที่จริง คือ Space Inspirium และ Bangsaen Aquarium and Museum
 
 
“พิพิธภัณฑ์ในยุคนี้ คือแหล่งเรียนรู้ที่เปิดกว้าง เปิดโลกทัศน์ แทนที่จะปรุงแต่งทฤษฎี เราก็ได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง เด็กจะเกิดแรงบันดาลใจ กระตุ้นแนวคิดให้คนที่ไปสัมผัสได้เจอกับมิติใหม่ มีหลายมุมมองมากขึ้น สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ GISTDA เป็นหน่วยงานหลักของประเทศที่ดูแลเรื่องเทคโนโลยีอวกาศ และนำคุณค่าจากอวกาศมาใช้ประโยชน์สู่ภาคพื้นดินสู่มวลมนุษยชาติทั้งหลาย ก็ตอบโจทย์ว่าถ้าเราจะทำให้คุณค่าจากอวกาศเพิ่มมากขึ้น จะต้องมีแหล่งเรียนรู้ Space Inspirium จำลองด้านอวกาศและเทคโนโลยีสารสนเทศ อยู่ในอุทยานรังสรรค์นวัตกรรมอวกาศ เป็นอุทยานที่ครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำ นำภาคอวกาศสู่ภาคพื้นดิน แล้วก็กลางน้ำ แล้วก็ปลายน้ำ แล้วภาคอวกาศจะเกิดประโยชน์กับประเทศชาติและมวลมนุษยชาติได้อย่างไร เด็ก ๆ จะได้สัมผัสโลกเสมือนจริงด้านอวกาศ ได้เรียนรู้เอกภพทั้งหมด ตั้งแต่โลก ดวงอาทิตย์ และดาวเคราะห์ เด็ก ๆ ทดลองได้ว่า ถ้าอยากเป็นนักบินอวกาศ คุณจะอยู่อวกาศได้อย่างไร เราก็มีเครื่องเล่นที่สามารถค้นหาตัวเองว่าคุณสามารถเข้าไปสู่จุด ๆ นั้นได้หรือไม่ หรือถ้าคุณไปอยู่ในดาวอังคาร ในดวงจันทร์ คุณจะทำวิถีชีวิตอย่างไร เรามีการทดลองให้ เหล่านี้จะก่อเกิดจุดประกายให้กับเด็ก ๆ ค้นหาตัวเองว่าสุดท้ายอนาคตวิชาชีพของพวกเขาอยากเป็นนักบินอวกาศไหม เหนือสิ่งอื่นใดเราจะมีกิจกรรมที่ให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้นอกห้องเรียนที่เราจัดทุกเดือน จัดฟรี เป็นการจุดประกาย และกระบวนการคิดให้กับเด็ก” คุณปราณปรียา วงค์ษา กล่าว
 
“สำหรับสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล เป็นพิพิธภัณฑ์แบบเรียนรู้ตลอดชีวิต เพราะว่าทุกคนสามารถเข้ามาเรียนรู้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวิชาการ การสร้างแรงบันดาลใจ Bangsaen Aquarium & Museum เป็นหน่วยงานที่อยู่ภายใต้มหาวิทยาลัยบูรพา เราเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงด้านสัตว์น้ำ มีการให้ความรู้ มีองค์ความรู้เกี่ยวกับด้านทะเล วิทยาศาสตร์ทางทะเล สิ่งแวดล้อมทางทะเล ในเรื่องของสุนทรียะ ในเรื่องของการมีสัตว์จริง ๆ ที่มาว่ายน้ำในตู้จัดแสดง เรามีหลักในการที่จะจัดการให้สิ่งมีชีวิตในทะเลอยู่อย่างสบายในพิพิธภัณฑ์ ส่วนที่เสริมในเรื่องของแหล่งเรียนรู้เป็นเรื่องของการได้ดู ปฏิบัติ ได้จับ ได้ทดลอง ได้มองเห็นของจริง ทำให้เกิดแรงบันดาลใจ หลายคนอยากมาเที่ยวทะเล ซึ่งถ้ามาเที่ยวแล้วได้เรียนรู้ ได้เห็นความสำคัญของชีวิตในทะเล ได้เห็นประโยชน์ รวมถึงสร้างความตระหนักทั้งเรื่องของการเรียนรู้ และได้เห็นบรรยากาศที่ครอบครัว คุณพ่อคุณแม่จูงลูกมาดู เวลาเด็ก ๆ ถาม คุณพ่อคุณแม่ก็อธิบายให้ฟัง เรามองว่าตรงนั้นจะเป็นการสร้างความสัมพันธ์ของครอบครัว มีความรัก ความอบอุ่น จะทำให้เด็กมีภูมิคุ้มกันในเรื่องของสิ่งต่าง ๆ ที่เขาจะต้องเจอในอนาคต รวมถึงเราสามารถที่จะสร้างบทเรียนนอกห้องเรียนที่จะมีคุณค่าอย่างยิ่งสำหรับเด็ก ๆ ให้เติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่ดีที่ของสังคม 
 
 
สิ่งแรกที่อยากจะให้ทุกคนเข้าไปดูเป็นส่วนของกระดูกวาฬบลูด้า ซึ่งเป็นวาฬท้องถิ่นของบางแสน เดิมทีเขามาเกยตื้นที่หาดบางแสน ชาวประมงก็เอาวาฬตัวนี้มาให้อาจารย์กับนิสิตที่มหาวิทยาลัย เราก็ร่วมพูดคุย และมองว่าน่าจะดึงเอาความรู้นอกจากหนังสือ มาเป็นความรู้ให้กับคนอื่นด้วย ก็จะเกิดคุณประโยชน์กับสังคมด้วย ตรงนี้จะเป็นไฮไลท์ หลังจากเข้าไปแล้วในส่วนของพิพิธภัณฑ์ทางทะเลจะมี 2 ชั้น เริ่มด้วยระบบนิเวศป่าชายเลน จะเห็นความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับต้นไม้กับป่าชายเลน ปะการัง แมงกะพรุน ซึ่งกะพรุนส่วนใหญ่ของเรา เกิดจากการเพาะพันธุ์ในห้องปฏิบัติการโดยนักวิทยาศาสตร์ จากนั้นจะเป็นสิ่งมีชีวิตในโลกใต้ทะเลที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งเราจะสอดแทรกให้เด็กคิดว่าทำอย่างไรที่จะทำให้สิ่งมีชีวิตใต้น้ำเขาอยู่กับเราได้นาน ๆ จุดประกายเรื่องของการรักทะเล ด้วยความที่เราเป็น Research Aquarium เป็นวิจัยเพื่อการพัฒนา การสร้างความตระหนักเรื่องของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รักธรรมชาติ รักทะเล และยังสอดแทรกเรื่องของประโยชน์จากสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลอีกด้วย” ดร.บัลลังก์ เนื่องแสง กล่าว
 
 
ทางด้านของคุณมณิศา ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา ผู้เขียนนิทานกุ๋งกิ๋ง ชุด เที่ยวพิพิธภัณฑ์ กล่าวถึงหนังสือนิทานชุดนี้ว่า “ก่อนหน้านี้ทางสำนักพิมพ์ได้ผลิตชุดกุ๋งกิ๋งเที่ยวอาเซียน 10 เล่ม 10 ประเทศ กุ๋งกิ่งพาไปเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ แล้วสิ่งที่ทำให้ทีมงานปลาบปลื้มใจ คือ การที่มีเด็กได้ตามรอยกุ๋งกิ๋งไปเที่ยวจริง ๆ  เขาจะไปถ่ายรูปตรงกับภาพประกอบในนิทานแล้วส่งมาให้เราดู  ซึ่งเราก็มองว่าในเมื่อหนังสือแนวนี้มีประโยชน์ ช่วยเปิดโลกการเรียนรู้ของเด็กได้ ก็น่าจะมีแหล่งเรียนรู้ที่สนุก และน่าสนใจที่เด็ก ๆ จะไปได้อีก ก็คือ พิพิธภัณฑ์นี่เอง จึงเป็นที่มาของชุดกุ๋งกิ๋งเที่ยวพิพิธภัณฑ์ชุดนี้
 
แต่ละพิพิธภัณฑ์มีความน่าสนใจมาก มีข้อมูลมหาศาลมาก เราเลือกมาใส่ในเล่มที่แสนจำกัดโดยช่วยกันคิดว่าถ้าเด็กไปแล้วเขาได้เห็นมันจะเป็นจุดที่ดึงดูดเขาได้ แล้วก็เป็นเรื่องที่ไม่ยากสำหรับเด็กเกินไป ในส่วนคำกลอนก็มีความยาก เพราะทุกคำจะถูกเอามาจัดให้เป็นคำคล้องจองกัน เรามีทีมงานช่วยดู แล้วให้คำแนะนำ จนกระทั่งเสร็จเรียบร้อยออกมาเป็นรูปเล่ม และอีกความมหัศจรรย์ของหนังสือชุดนี้อยู่ที่ทำเป็น 2 ภาษา สามารถใช้ปากกาพูดได้กุ๋งกิ๋งแตะ แล้วฟังเสียงได้ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ สำหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางสายตาก็จะสามารถฟังได้ เรียกว่าเป็นการถ่ายทอดความสุขที่เกิดขึ้นจากนิทานผ่านภาพ ผ่านกลอน ผ่านคำที่คล้องจอง แล้วก็ผ่านเสียงด้วย 2 ภาษา ไทย-อังกฤษ” 
 
 
หนังสือชุดกุ๋งกิ๋งเที่ยวพิพิธภัณฑ์ นิทานภาพคำกลอน 2 ภาษา เปิดอ่านได้ 2 ด้าน ส่งเสริมทักษะภาษาไทยและอังกฤษ คำศัพท์ท้ายเล่ม เหมาะสำหรับเด็กก่อนวัยเรียน ถึงระดับประถมศึกษา เพื่อให้เด็กสนุกไปกับแหล่งเรียนรู้ที่ช่วยเปิดประสบการณ์ และพัฒนากระบวนการคิด เป็นการเรียนรู้นอกห้องเรียนที่ยอดเยี่ยมที่สุด
 
 
 
ดังที่คุณปราณปรียา วงค์ษา และ ดร.บัลลังก์ เนื่องแสง ได้กล่าวตอนท้ายของงานว่า หนังสือชุดนี้ดีมาก ขอบคุณ แปลน ฟอร์ คิดส์ ที่คิด และสร้างสรรค์ผลงานดี ๆ แบบนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นสื่อให้องค์ความรู้กับคนไทย และได้มีส่วนร่วมทำให้เด็กไทยและครอบครัวได้รู้จักการเที่ยวพิพิธภัณฑ์ และรู้ถึงประโยชน์ของพิพิธภัณฑ์ ซึ่งหนังสือชุดนี้ทำออกมาได้น่าทึ่งมาก ครบถ้วนทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ด้วยภาษาที่สละสลวย ทุ่มเททั้งผู้เขียน ผู้วาดภาพ ผู้แปล อ่านแล้วเห็นภาพ พยายามจะสรุปประเด็นต่าง ๆ ที่เป็นไฮไลท์ในแต่ละพิพิธภัณฑ์ได้ดี บวกกับเทคโนโลยีที่ใช้ร่วมกับปากกาพูดได้ จึงทำให้หนังสือกุ๋งกิ๋งชุดเที่ยวพิพิธภัณฑ์เป็นหนังสือที่มีชีวิตเหมาะกับเด็ก ๆ มาก