ตะกร้าสินค้า
cancel

My Cart

ยอดรวม

0.00 บาท

6 โรคยอดฮิตในเด็กและวิธีป้องกัน

วันที่ : 25/07/2023
remove_red_eye อ่านแล้ว : 22,593 คน
share แชร์

6 โรคยอดฮิตในเด็กและวิธีป้องกัน

การเจ็บป่วยสำหรับเด็ก ๆ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ง่าย เพราะเด็ก ๆ มีภูมิคุ้มกันของโรคที่น้อยกว่าผู้ใหญ่ การหมั่นสังเกตอาการของเด็ก ๆ ในแต่ละวัน เป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสำคัญ เพื่อป้องกันโรคระบาดต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับเด็ก ๆ ได้ วันนี้ แปลน ฟอร์ คิดส์ จึงได้รวบรวม 6 โรคยอดฮิตที่เด็กเป็นกันบ่อย พร้อมวิธีการป้องกัน มาฝากคุณพ่อคุณแม่กันนะคะ

1. โรคไข้หวัดใหญ่

  • การติดต่อ เป็นโรคติดต่อของระบบทางเดินหายใจที่มักระบาดในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว ผ่านการไอ    จาม หรือการสัมผัสสิ่งของร่วมกัน โดยเชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางจมูก ตา และปาก
  • อาการ มีไข้สูง มีน้ำมูก ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ และอาเจียน รวมไปถึงมีอาการท้องเสีย
  • วิธีป้องกัน ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ใส่หน้ากากอนามัย ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น และหมั่นล้างมือด้วยสบู่อยู่เสมอ


2. โรคมือเท้าปาก

  • การติดต่อ เป็นโรคติดต่อชนิดหนึ่งที่เกิดจากเชื้อไวรัส พบได้บ่อยในเด็กทารกและเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และจะพบมากในช่วงฤดูฝน โรคนี้ติดต่อจากการสัมผัสน้ำลาย น้ำมูก และแผลของผู้ที่มีเชื้อ
  • อาการ มีตุ่มแดงขึ้นที่บริเวณลิ้น เหงือก กระพุ้งแก้ม มีตุ่มพองใสแดงที่ฝ่ามือ นิ้วมือ ฝ่าเท้า รวมถึงสามารถพบได้ที่บริเวณหัวเข่าทั้งสองข้าง หรืออาจขึ้นบริเวณก้นได้เช่นกัน
  • วิธีป้องกัน สอนให้เด็ก ๆ หมั่นล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่ ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น และหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับเพื่อนที่ป่วยเป็นโรคมือเท้าปาก


3. โรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัส RSV

  • การติดต่อ เป็นเชื้อไวรัสที่ระบาดในช่วงปลายฝนต้นหนาว โรคนี้เป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจโดยเฉพาะในเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 3 ปี เชื้อนี้จะติดต่อกันได้จากการสัมผัสสารคัดหลั่งต่าง ๆ ของผู้ป่วย เช่น น้ำมูก น้ำลาย เสมหะ
  • อาการ เป็นไข้ มีอาการหอบ เหนื่อย หายใจลำบาก และทำให้เกิดภาวะปอดอักเสบ
  • วิธีป้องกัน การสอนให้เด็ก ๆ หมั่นรักษาความสะอาด ล้างมือบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับเพื่อนที่เป็นหวัด ไอ จาม และใส่หน้ากากอนามัยด้วยนะคะ
     

4. โรคเฮอร์แปงไจน่า

  • การติดต่อ เกิดจากการติดเชื้อจากไวรัสชนิดเดียวกันกับมือ เท้า ปาก สามารถติดต่อกันได้ผ่านทางน้ำมูก การไอ และการจาม
  • อาการ มีไข้สูง มีแผลในช่องปากบริเวณเพดานอ่อน ลิ้นไก่ ต่อมทอนซิล และในโพรงคอหอย
  • วิธีป้องกัน หมั่นล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่ ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับเพื่อนที่ป่วย

 

5. โรคไข้เลือดออก

  • การติดต่อ เป็นโรคติดต่อที่มักเกิดขึ้นในฤดูฝนมียุงลายเป็นพาหะนำโรค ซึ่งโรคนี้ส่วนใหญ่จะพบในเด็กที่มีอายุระหว่าง 5 – 14 ปี
  • อาการ มีไข้สูงเกิน 2 วัน อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ อาเจียน และพบจุดเลือดตามร่างกาย
  • วิธีป้องกัน คุณพ่อคุณแม่ควรทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงบริเวณบ้านและใกล้เคียง ด้วยการปิดฝาหรือทำลายภาชนะที่มีน้ำขังไม่ให้ยุงเข้าไปวางไข่ ใช้มุ้งหรือติดตั้งมุ้งลวดกันยุงที่บ้าน เพื่อไม่ให้เด็ก ๆ ถูกยุงกัด และควรพาเด็ก ๆ ไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออก เมื่ออายุครบ 9 ปี

 

6. โรคอีสุกอีใส

  • การติดต่อ โรคติดต่ออีกหนึ่งโรคในฤดูหนาวมักเกิดขึ้นได้บ่อยกับเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี และสามารถเกิดขึ้นได้ง่ายกับผู้ที่ไม่เคยเป็นโรคอีสุกอีใส หรือไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใสมาก่อน ติดต่อผ่านการหายใจ ไอ จาม หรือสัมผัสกับตุ่มน้ำบริเวณผิวหนังโดยตรง
  • อาการ เป็นผื่นแดง มีตุ่มใส ตุ่มหนอง กระจายตามหน้า ลำตัว แผ่นหลัง และมีไข้ 
  • วิธีป้องกัน วิธีการป้องกันที่ดีที่สุดของโรคนี้ คือการฉีดวัคซีนอีสุกอีใส จำนวน 2 ครั้ง ซึ่งเริ่มฉีดได้ตั้งแต่อายุครบ 1 ปี รวมถึงการรักษาความสะอาดของร่างกาย ของใช้อยู่เสมอด้วย
     

6 โรคข้างต้นนี้ เป็นเพียงตัวอย่างของโรคที่พบได้บ่อยในเด็กเล็ก แต่ยังคงมีอีกหลายโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้กับเด็ก ๆ เพราะเชื้อโรคนั้นมีอยู่ทุกที่ และเด็กยังมีภูมิคุ้มกันโรคที่ต่ำ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงควรดูแลเด็ก ๆ ให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง โดยการรับประทานอาหารครบทั้ง 5 หมู่ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกาย และที่สำคัญคือการรักษาความสะอาด หมั่นล้างมือด้วยสบู่อยู่เสมอ รวมถึงการพาเด็ก ๆ ไปตรวจสุขภาพ ฉีดวัคซีนตามที่แพทย์แนะนำ และเมื่อร่างกายของเด็ก ๆ มีความผิดปกติเกิดขึ้น คุณพ่อคุณแม่ก็ควรรีบปรึกษาแพทย์ เพื่อรับการรักษาอย่างเร่งด่วนและถูกวิธีกันนะคะ ด้วยความห่วงใยจากแปลน ฟอร์ คิดส์ ค่ะ

 

หนังสือแนะนำ